เคล็ดลับความสวยความงามตามวิธีธรรมชาติ

  ผิวสวยใส

      ผิวพรรณจะสดใสและดูชุ่มชื้นมีน้ำมีนวลถ้ากินอาหารที่อุดมด้วยกำมะถันเช่น 

หัวไชเท้า ขึ้นฉ่าย แครอต มะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่ง หอมหัวใหญ่ ผักกาดหอม

ผิวเกลี้ยงเกลา

วิตตามินเอช่วยบำรุงผิวพรรณให้เกลี้ยงเกลา ปราศจากสิว ฝ้า จุดด่างดำ

อาหารที่อุดมด้วยวิตตามินเอ คือ ฟักทอง แคนตาลูป แครอต มันฝรั่ง มะม่วง

ผิวเนียนเรียบ

กินอาหารทะเลเป็นประจำก็ช่วยให้ผิวดีได้ เพราะอาหารทะเลหลายชนิด

อุดมไปด้วยสังกะสี เช่น หอยนางรม และปูสดๆ

ผิวเปล่งปลั่ง

อาหารที่อุดมด้วยวิตามินอีคือ ยาดีสำหรับผิวหากกินเป็นประจำผิวพรรณจะเปล่งปลั่ง

ไม่หยาบไม่ย่น อาหารที่เป็นแหล่งวิตามินอีคือ มันฝรั่ง แครอต กะหล่ำปลี บร็อกโคลี่

ข้าวซ้อมมือ หน่อไม่ฝรั่ง แอพริคอต งา เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง และถั่วต่างๆ

การนวดตัว

ให้คนใกล้ชิดช่วยนวดตามเนื้อตามตัวทุกๆเดือน เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังเป็น

การนวดกระตุ้นให้เลือดลมสูบฉีดไหลเวียนดี การนวดตัวยังทำให้สดชื่นและมีผิวพรรณดีอีกด้วย

นวดหน้า

การใช้พืชผัก-ผลไม้ มามาร์กพอกหน้าก็เป็นโอกาสดีที่จะทำให้เราได้นวดหน้าด้วยปลายนิ้ว

เพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวหนังและกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต แม้ไม่มาร์กหน้าก็หมั่นใช้ปลายนิ้ว

นวดๆ คลึงๆ ให้ทั่วใบหน้าเป็นประจำ ผิวหน้าจะดูเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ได้ดีเช่นกัน

อบใบหน้า

เวลาหุงข้าว หรือต้มน้ำร้อนไว้ชงกาแฟ ให้เอาหน้าไปอังกับไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมา 

เมื่อเราเปิดฝาหม้อ (แต่อย่าก้มลงไปให้ต่ำนัก) ทำเช่นนี้ได้บ่อยๆ 

และทุกวันเพื่อเปิดรูขุมขนและทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น

น้ำอุ่น

การอาบน้ำอุ่นเป็นประจำเพื่อกระตุ้นเลือดลมนั้นช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมีน้ำมีนวล

ได้ผลดีค่อนข้างมาก แต่จะต้องไม่อาบในอุณหภูมิที่สูงเกินไปซึ่งกลับจะทำให้ผิวเหี่ยวย่น

ใยบวบ  

เวลาอาบน้ำทุกๆวันควรใช้ใยบวบหรือฟองน้ำขัดถูให้ทั่วตัว เพื่อขจัดเซลล์เก่าและ

กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต การขัดๆ ถูๆ ผิวหนังทั่วร่างในระหว่างอาบน้ำจะช่วย

ให้ผิวพรรณดี  มีความเต่งตึงและไม่สากไม่หยาบกร้าน

น้ำแร่

ดื่มน้ำแร่เป็นประจำ  หรือถ้ามีโอกาสก็ให้ไปแช่น้ำแร่บ้าง เพราะในน้ำแร่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ

ต่างๆ ซึ่งจะช่วยขับพิษออกจากร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณสดชื่นสดใส

ชาสมุนไพร

เครื่องดื่มประเภทชาสมุนไพรมีหลายชนิดให้เลือกดื่มในปัจจุบันนี้ ชาสมุนไพรมีผลดี

ต่อระบบย่อยอาหาร และช่วยดูแลสุขภาพความงามของดวงตาและผิวพรรณด้วย

ยาสีฟัน

แปรงฟันทุกๆเช้า และก่อนนอนด้วยยาสีฟันที่คุณคิดว่าเหมาะกับสุขภาพฟันของคุณ

แต่ทุกๆสัปดาควรแปรงฟันด้วยเกลือทะเลบ้างเพื่อรักษาและถนอมเหงือก ฟันและ

สุขภาพของช่องปากให้แข็งแรงปราศจากอาการอักเสบใดๆ

หวีผม

หมั่นแปรงผมวันละหลายๆครั้งในตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน และก่อนเข้านอน เพื่อนวด

กระตุ้นศีรษะและเป็นการนำน้ำมันมาหล่อเลี้ยงให้ทั่วเส้นผมได้ดี จะมีผลต่อความ

แข็งแรงและเป็นเงางามของเส้นผม

หน้าย่นมีริ้วรอยง่าย

อย่าทำหน้าบูดบึ้งบ่อยนัก ระวังเรื่องการขมวดคิ้วให้ดี การทำหน้าตายก็ทำให้หน้าแก่ง่าย

พอๆกับการทำหน้าถมึงทึง แต่การยิ้มแย้มกลับจะทำให้หน้าอ่อน มิได้มีรอยตีนกาเร็วอย่างที่

คนทั่วไปเข้าใจผิด การทำหน้าเครียดต่างหากที่มีผลให้ใบหน้ามีริ้วรอย และเหี่ยวย่นได้ง่าย

อดอาหาร

อย่าอดอาหารไม่ว่าในเหตุผลใด เพราะการอดอาหารจะทำให้ผิวพรรณแห้ง หยาบกร้าน

และเหี่ยวย่นได้เร็วเนื่องจากขาดสารอาหาร

ดังนั้น ถ้าจะลดความอ้วนก็ไม่ควรอดอาหาร แต่ให้จำกัดอาหาร และการออกกำลังกายให้มากๆ

ถ้ามื้อใดมีเหตุให้ต้องอดอาหารก็ควรรีบดื่มนมสด หรือกินโยเกิร์ตสักถ้วย การอดอาหารนอกจาก

มีผลกระทบโดยตรงกับผิวแล้ว ยังทำให้ดวงตาหม่นหมองไม่สดใส และมีผลเสียต่อสุขภาพในด้าน

อื่นๆอีกมหาศาล

เรียวน่องผุดผ่อง

ใช้รำข้าวสัก 1 ถ้วย ผสมกับนมเปรี้ยว 1 ถ้วย เติมเกลือทะเลไปอีก 2 ช้อนโต๊ะ

นำมาชโลมให้ทั่วน่องตั้งแต่เหนือเข่าจนถึงปลายเท้า ขัดๆ ถูๆ แล้วทิ้งไว้ 10 นาที

จึงล้างออก ทำทุก 2 สัปดาห์ จะได้น่องที่เนียนใส และผุดผ่อง

เรียวแขนตึงกระชับ

ใช้ถั่วเขียวต้มสัก 2-3 ถ้วย นำมาบดหรือปั่นให้ละเอียดเนียนเป็นเนื้อครีม ผสมไข่ขาว

2 ฟอง และผงกำมะถันอีก 3 ช้อนชา เคล้าให้เข้ากันแล้วนำมาชโลมพอกตั้งแต่ต้นแขน

จนถึงปลายนิ้ว พอกทิ้งไว้นาน 30 นาที จึงค่อยล้างออก ทำทุกๆ 2 สัปดาห์ จะเห็นได้ว่า

ผิวพรรณของเรียวแขนเนียนนุ่มและกระชับดีไม่ยากนัก

มือ-เท้านุ่มเนียน

โยเกิร์ตที่หมดอายุเหลือติดตู้เย็นอย่าทิ้งนำมาพอกทาเท้าและมือให้ทั่วๆทิ้งไว้สัก

10 นาที จึงค่อยล้างออก เพื่อให้ได้ผิวของมือและเท้าที่นุ่มเนียนไม่แห้งกร้าน

เปลือกส้มโอ

บริเวณด้านในของเปลือกส้มโอที่นุ่มๆ เป็นปุยขาวๆ นั้นมีประโยชน์นัก นำมานวดๆ ถูๆ

ให้ทั่วมือและเล็บสัก 5 นาที มือจะนุ่มเนียน น่าสัมผัสอย่างรวดเร็วทันใจ

บำรุงเล็บมือ เท้า

แช่มือ และเท้าในอ่างเล็กๆ ใส่น้ำอุ่นสักครึ่งอ่างผสมน้ำมันมะกอกลลงไปสัก

3-4 ช้อนโต๊ะ หยดน้ำมันหอมระเหยลงผสมด้วยสัก 2-3 หยด แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

จึงค่อยล้างออก เพื่อให้เล็บแข็งแรงมีประกายเป็นเงางามไม่หักเปราะง่าย ไม่ซีดจาง

แก้ตาบวมหรือขอบตาคล้ำ

ฝานแตงกวาเป็นชิ้นบางๆ โปะลงบนเปลือกตาแล้วนอนพักสายตาสัก15-20 นาที

รอยคล้ำ หรือบวมแดงจะหายไปได้อย่างทันอกทันใจถ้าหาแตงกวาไม่ได้ให้ใช้ถุงชาที่ชงแล้ว

 วางโปะลงไปบนเปลือกตาก็ได้  หรือไม่มีทั้งสองอย่างข้างต้นไม่มีติดบ้านเลย ก็นำก้อนน้ำแข็ง

มาห่อผ้าขนหนู แล้ววางประคบเปลือกตา ก็จะสามารถบรรเทาได้เช่นกัน

ฟื้นฟูความสดใสให้ดวงตาที่ทรุดโทรม

ในเช้าวันที่รู้สึกว่าดวงตาทรุดโทรมหม่นหมอง เพราะนอนดึกหรือผ่านการร้องไห้มามาก

สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเเพียง 25-30 นาที ด้วยการใช้มันฝรั่งสดๆบำบัดบรรเทา 

ล้างมันฝรั่งให้สะอาด ไม่ต้องปอกเปลือก ฝานเป็นแว่นบางๆวางลงบนเปลือกตาแล้วนอนพักตาสัก

25-30 นาที

 

 ฟื้นฟูผมแห้งแข็ง

  

ใช้ชะอมสัก 2 ถ้วย ล้างให้สะอาดก่อนนำไปต้มกับน้ำสะอาดสัก 5 แก้ว แล้วกรองเอาแต่น้ำ

มาราดเส้นผมให้ชุ่ม ขยำให้น้ำชะอมซึมได้ทั่วๆหมักผมทิ้งไว้นาน 5 นาที จึงค่อยล้างออก

วันรุ่งขึ้นค่อยสระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนๆ เพื่อขจัดกลิ่นชะอม ทำทุก 2 สัปดาห์ เส้นผมจะ

อ่อนนุ่มมีชีวิตชีวา

ฟื้นฟูผมแห้งเสีย

ใช้น้ำมันมะกอกประมาณครึ่งถ้วย ข้าวต้มผสมกับน้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่ ชโลมทั่วศรีษะ

จนเส้นผมชุ่มดี หมักทิ้งไว้นาน 30 นาที จึงค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ หมั่นทำเดือนละ 2 ครั้ง

เส้นผมจะนุ่มสลวย ไร้รังแค และมีประกายเงางามหอมสดชื่น

รักษาผมแตกปลาย

ใช้ตะไคร้ 4 ต้น ล้างให้สะอาด แกะเปลือกนอกออก 2-3 ชั้น หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วโขลกหรือ

ใส่เครื่องปั่นให้ละเอียด เติมน้ำอุ่นไปด้วยสัก 1 แก้ว กรองน้ำตะไคร้มาชโลมให้ทั่วเส้นผม ใส่

 หมวกคลุมผมไว้สัก 10 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ทำทุก 2 สัปดาห์ เส้นผมจะแข็งแรง

ไม่ร่วงง่ายและไม่แตกปลาย

บำรุงเส้นผมที่มีความมัน

ใช้ไข่ไก่ 2 ฟอง คัดแยกเอาแต่ไข่ขาวใส่ชามแล้วใช้ส้อมตีให้ละเอียดเนียนเป็นเนื้อครีม

เติมน้ำอุ่นสัก 1 ถ้วยข้าวต้มลงไป ผสมให้เข้ากัน แล้วใช้ชโลมเส้นผมให้ทั่วๆ (อย่าลืม

ชโลมผมให้เปียกก่อน) ขยำให้ครีมไข่ขาวแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมทั่วๆ นวดหนังศีรษะแรงๆ

ทิ้งไว้สัก 5 นาทีเต็ม จึงค่อยล้างออกให้สะอาดสัก 2-3 น้ำโดยไม่ต้องใช้แชมพูสระผมอีกครั้ง

 บำรุงผมให้เงางามมีน้ำหนัก

ใช้อโวคาโดสุก 1 ชิ้นโตกับไข่ไก่ 1 ฟอง ที่คัดเอาแต่ไข่แดงนำมายีๆ ผสมกันหรือใส่เครื่องปั่น

แล้วนำไปชโลมให้ทั่วเส้นผม  หมักทิ้งไว้นาน 10 นาที จึงล้างออก แล้วใช้แชมพูสูตรอ่อนๆ สระ

ซ้ำอีกเพียงครั้งเดียว สูตรนี้ทำสัปดาหืละครั้ง เส้นผมจะดูหนานุ่มเป็นเงางามและไม่แตกปลาย

หรือขาดเปราะง่าย 

บำรุงผมแห้งเสีย

ใช้น้ำมันมะพร้าวครึ่งถ้วยข้าวต้มกับไข่ไก่ 1 ฟอง ที่คัดแยกเอาแต่ไข่แดงตีผสมให้เข้ากันในชาม

แล้วนำใส่หม้อตั้งไฟอ่อนๆพอให้น้ำมันร้อนนิดๆ ก็ยกลงได้(อย่าให้ร้อนจัด) รอสัก 5 นาทีจึงค่อย

ชโลมน้ำมันให้ทั่วเส้นผมที่เปียกหมาดๆ ขยำให้น้ำมันแทรกซึมได้ทั่วๆทุกเส้นผมด้วยผ้าขนหนูหมัก

ทิ้งนาน 30 นาทีเต้มแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆเท่านั้น(ไม่ควรใช้น้ำเย็นล้างออก)

 

 แก้ผมลีบบางให้หนานุ่ม

ใช้ไข่ไก่ 1 ฟอง แยกเอาแต่ไข่แดง นำไปผสมกับน้ำมันละหุ่งประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ หรือครึ่งถ้วย

ข้าวต้ม ใช้ส้อมตีผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน  ชโลมผมให้เปียกด้วยน้ำอุ่นๆ แล้วชโลมครีมน้ำมัน

ให้ทั่วๆจนชุ่ม นวดให้ทั่วหนังศีรษะและท้ายทอย ห่อผมด้วยผ้าขนหนู หมักทิ้งไว้นาน 20 นาที

จึงค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆแล้วใชแชมพูสำหรับเด็กสระออกอีกเพียง 1 ครั้ง สูตรนี้สามารถ

ทำได้ทุกๆ สัปดาห์ เพื่อเพิ่มรายละเอียดของเส้นผม

รักษารังแค แก้ผมหลุดร่วงง่าย

ใช้มะกรูด 4-5 ผล นำไปย่างไฟอ่อนๆ แล้วผ่าครึ่งคั้นเอาแต่น้ำใส่ถ้วยไว้ จากนั้นสระผมให้สะอาด

ด้วยแชมพูสำหรับเด็กหรือแชมพูสูตรอ่อนๆที่สระได้ทุกวัน เวลาสระอย่าใช้เล็บเกาหนังศีรษะเป็นอันขาด

ซับผมให้หมาดด้วยผ้าขนหนู แล้วค่อยชโลมน้ำมะกรูดให้ทั่วๆเส้นผม นำผลมะกรูดผ่าครึ่งที่เหลือสัก

1-2 ซีก มาถูให้ทั่วหนังศีรษะปล่อยทิ้งไว้สัก 10 นาที จึงค่อยล้างออกให้สะอาดโดยไม่ต้องสระผมซ้ำ

ทำเช่นนี้ทุกๆ สัปดาห์ หนังศีรษะจะสะอาด เส้นผมก็จะแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่ายและไม่หงอกเร็วอีกด้วย

 ผมแห้งไม่นุ่มสลวย

ใช้กล้วยน้ำว้าไม่สุกมากนัก ปั่นผสมกับน้ำมันอัลมอลด์ 1 ช้อนชา (ถ้าไม่มีเครื่องปั่นใช้ช้อนบดๆยีๆ

ให้เนื้อกล้วยละเอียดเนียนก็ใช้ได้) ราดน้ำอุ่นให้ผมเปียกหมาดๆ ชโลมครีมกล้วยให้ทั่วๆหมักทิ้งไว้

นาน 10 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ทำทุกๆ สัปดาห์ เส้นผมจะนุ่มสลวยพลิ้วไสวไม่แห้งกรอบ